วันอังคารที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ตลาดน้ำขวัญเรียม...แห่งทุ่งบางกะปิ(Kwan Riam Floating Market)

Kwan Riam Floating Market
บรรยากาศ "ตลาดน้ำขวัญเรียม" เปิดให้บริการเฉพาะวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์


เช้าวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ไม่รู้จะทำอะไรดี ไปเที่ยวตลาดน้ำขวัญเรียมกันดีกว่ามัยครับ เป็นตลาดน้ำเปิดใหม่ไม่นานมานี้เองอยู่ไม่ไกลด้วย ในกรุงเทพฯนี้เอง เปิดให้ประชาชนทั่วไปใช้บริการเฉพาะวันหยุดนะครับ วันธรรมดาไม่เปิด


ศาลขวัญ-เรียมจะอยู่ตลาดน้ำฝั่งทิศใต้ สำหรับกราบไหว้บูชา

เด็กๆวันรุ่นสมัยใหม่ อาจจะไม่คุ้นเคยกับชื่อ ขวัญ-เรียม ซะเท่าไร แต่ถ้าไปถามรุ่นคุณพ่อ คุณแม่ คุณปู่ คุณย่าละก็ รับรองรู้จักชื่อนี้แทบทุกคนละครับ ขวัญ-เรียมเป็นชื่อคู่พระคู่นางในนวนิยายอมตะ เรื่องแผลเก่า ของท่านผู้เขียนทีใช้นามปากกาว่า  ไม้ เมืองเดิม ครับ

บรรยากาศตลาดน้ำขวัญเรียม หลายท่านอาจจะคิดว่าต้องมีบ้านเรือนห้องแถวไม้เก่าหลายร้อยปี มีเรือแจวพ่อค้าแม่ค้า พายเรือไปมาค้าขายสินค้าแบบนั้นใช่มัยครับ?   ตอบว่า...ไม่ใช่แบบนั้นครับ เป็นตลาดน้ำประยุกต์ครับ อาคารขายของก็แนวใหม่ๆ แต่มีเรือขายอาหารจอดไว้กับที่ เพื่อให้บริการลูกค้าประชาชน ที่สนใจอยากทานอะไรก็สามารถขึ้นไปสั่งและนั่งทานกันบนเรือได้เลย สิ่งปลูกสร้างที่ดูเป็นพระเอกของตลาดน้ำก็น่าจะเป็น สะพานโครงเรือครับ ที่จะเชื่อมระหว่างสองฝั่งคลองเข้าด้วยกัน ทั้งยังเป็นที่นิยมสำหรับผู้ที่ชื่นชอบถ่ายรูป ฉากหลังก็จะเป็นเรือร้านอาหารจอดเรียงรายไปตามลำคลอง ในอาคารขายของที่ตลาดน้ำ ก็จะมีร้ายขายเสื้อผ้า ร้านอาหาร ศิลปรับเขียนรูปเหมือน ศิลปินเปิดหมว ฯลฯ  แต่จะเน้นเรื่องของกินครับ เยอะมากมีแต่ของอร่อยๆทั้งนั้นเลยครับ  

ติดกับตลาดน้ำจะเป็นที่ตั้งของวัด 2วัดด้วยกันเลยครับ คือ วัดบำเพ็ญเหนือ และวัดบำเพ็ญใต้ อยู่ตรงข้ามคนละฝั่งกัน ไปเที่ยวตลาดน้ำแล้วอย่าลืมแวะทำบุญด้วยนะครับ  
กิจกรรมอย่างอื่น ก็จะมีนั่งเรือชมวิถีชุมชนสองฝั่งคลอง ค่าเรือผู้ใหญ่ 10 บาท เด็กนั่งฟรี แถมยังมี มัคคุเทศก์ตัวน้อยๆ ค่อยให้ความรู้เกี่ยวกับวิถีชุมชนแถวนั้น  

มีเวทีการแสดงกลางแจ้ง ใช้บริเวณลานตรงหน้าศาล ขวัญเรียมนั้นแระครับ วันที่ไปก็มีการแสดงวัฒนธรรมโปงลางของเด็กนักเรียน  มาสร้างความบันเทิงให้กับพวกเรา

วันนี้โชคดี มีพระมหาสมปองมาเทศน์มุกตลกให้เราได้เฮฮา จริงแล้วท่านไม่ได้ตั้งใจมาเทศน์มุขตลกให้ฟักหรอกครับ เพียงท่านผ่านมาเที่ยวที่ตลาดน้ำ โฆษกการแสดงเลยนิมนต์ท่านมาเทศน์เขย่ามุกให้ฟังซะเลย พอให้เราขยับบริหารกรามเล่น

เรือร้านอาหาร
เรือขายอาหารจอดอยู่ทั้งสองฝั่งคลอง สั่งแล้วก็ทานกันบนเรือได้เลย

สะพานโครงเรือ
สะพานข้ามคลองที่เป็นลักษณะ โครงเรือ เรียกได้ว่าเป็นพระเอกของตลาด ใครมาก็ต้องมาถ่ายรูปด้วย

เพิ่มคำอธิบายภาพ

ร้านค้าที่ตั้งอยู่ในตลาดก็มีครับ มีหลากหลายมาก เลือกซื้อทานกันได้ตามสบาย


มาเที่ยวตลาดน้ำแล้วอย่าลืมแวะทำบุญด้วยนะครับ
 

ฝั่งที่เห็นอยู่จะเป็นฝั่งทางวัดบำเพ็งเหนือครับ ข้างบนเป็นร้านขายเสื้ผ้า ข้างล่างขายจองกิน



สำหรับผู้พิการ หรือผู้สูงอายุ ก็มีใช้ลิฟท์ใ้ห้บริการครับ


โรตีสายไหมหยอดเหรียญ
เด็กรุ่นใหม่คงจะไม่ค่อยกับการขายโรตีสายไหมแบบนี้ คือใช้ตังค์หยอด 5 บาทแล้วกดปุ่มสีแดงให้ เข็มหมุนไปรอบๆ หยุดที่ตัวเลขไหน ก็จะได้โรตีสายไหม ตามจำนวนตัวเลข ชอบครับ โบราณดี

ลุ้นว่าจะได้ 5 อันหรือป่าว? เสียดายได้แค่ 4 อัน แต่ปกติคนจะได้ 1 อันซะส่วนใหญ่



วาดภาพเหมือน หรือไม่ก็วาดหน้าเราเป็นแนวการ์ตูนใส่กระเป๋าผ้า เก๋ดีครับ

แบบจำลองชีวิตชาวบ้านตลาดน้ำ สมัยก่อน




ศิลปินรุ่นเก่า  มาเปิดหมวกขับกล่อมบรรเลงเพลงให้เราฟัง


การเดินทางก็ไม่ยากครับ จุดเริ่มต้นจากสี่แยกลำสาลีมุ่งตรงไปตามถนนรามคำแหง (ถนนสุขาภิบาล 3 ) เข้าได้หลายซอยนะครับ ทั้งซอยรามคำแหง 185 และ ซอยรามคำแหง 187 ก็ได้ครับ พอถึงรามคำแหงซอย 185 ก็เลี้ยซ้ายเข้าซอยไปได้เลยครับ ตรงไปนิดหน่อยก็จะเจอ ลานจอดรถอยู่ทางขวามือ หรืออาจจะเข้า รามคำแหงซอย 187 ก็ได้ครับ สังเกตป้ายจะเป็นซอยวัดบำเพ็ญใต้  ก็เลี้ยวซ้ายไปได้เลยครับ

วันศุกร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2555

เกาะเสม็ด Koh Samet



เกาะเสม็ด ได้ชื่อว่าเป็นเกาะที่มีความสวยงามอีกแห่งหนึ่งของไทย อีกทั้งการเดินทางก็ไม่ไกลจากรุงเทพฯมากนัก วันหยุดเสาร์-อาทิตย์ จึงมักมีผู้คนนิยมไปท่องเที่ยวพักผ่อน สามารถไปเช้า เย็นกลับได้ แต่ก็ควรไปแต่เช้าหน่อยนะครับ จะได้สัมผัสกับธรรมชาติบนเกาะได้เต็มอิ่ม


เกาะเสม็ดตั้งอยู่ ตำบลท่าเพ อำเภอเมือง จังหวัดระยอง เราอาจจะรู้จักเกาะเสม็ด อีกชื่อหนึ่งว่า เกาะแก้วพิสดาร ซึ่งเป็นชื่อเกาะในวรรคดีเรื่องพระอภัยมณี


ตัวของเกาะเสม็ดนั้นต้องเดินทางด้วยเรือ ซึ่งห่างจากฝั่งบ้านเพ เพียง 6.5 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทางโดยทางเรือ ประมาณ 30 นาที บนเกาะมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน มีชายหาดที่สวยงามหลายหาด สำหรับใครที่ชอบแนวผจญภัย สามารถเช่ารถมอเตอร์ไซค์ ขับขี่รอบๆเกาะเพื่อสำรวจความสวยงามอันเป็นธรรมชาติของเกาะเสม็ด แต่ว่าต้องชำนาญในการขับขีหน่อยนะครับ เพราะว่า ลักษณ์ทางจะเป็นขึ้นเนินลงเนิน เป็นดินลูกรัง หากไม่ระมัดระวัง รับรองมีแผลกลับมา

เกาะเสม็ดมีเนื้อที่ประมาณ 3,125 ไร่ มีลักษณ์เป็นรูปสามเหลี่ยม มีภูเขาขึ้นสลับซับซ้อนกัน 2-3 ลูก เหตุที่มีชื่อว่า  เกาะเสม็ด  เพราะเกาะนี้มีต้นเสม็ดขาว และเสม็ดแดงขึ้นอยู่มาก ซึ่งในอดีตชาวบ้านนำมาใช้ทำไต้จุดไฟ


ทรายขาวละเอียด ที่หาดทรายแก้ว


หาดที่นิยมไปกันผักผ่อนกันเยอะหน่อยก็มี หาดทรายแก้วครับ ลักษณะของหาดซึ่งจะมีเม็ดทรายสีขาว เม็ดเล็กละเอียด เวลาเดินแบบไม่ใส่รองเท้าแล้ว สึกนิ่มเท้า  ความยาวของหาดประมาณ 800 เมตร เป็นหาดที่เรียกว่าผู้คนคึกคักตลอด มีกิจกรรมเยอะ ทั้งร้านอาหาร ที่พัก รีสอร์ท มากมายให้เลือกใช้บริการ ตกเย็นที่ชายหาดนี้ ก็จะมีร้านอาหาร บาร์เหล้า เปิดบริการสำหรับนักท่องเที่ยว มีควงกระบองไฟโชว์ด้วยครับ

ตกเย็นบรรยากาศนั่งริมชายหาด เริ่มมีแสงไฟสวยๆให้เห็น




โชว์ควงกระบองไฟ





มีที่พักที่ติดชายหาดเลยหลายรีสอร์ทครับ ประมาณว่าแค่ลุกออกห้อง เดินไม่กี่ก้าว ก็จะพบกับชายหาด ที่มีทรายสีขาวสะอาดตา ที่พักบางเจ้าก็มีเตียงนอนเต้นท์ผ้าใบ บริการฟรีให้กับลูกค้าที่พักที่ห้อง

บรรยากาศตอนเช้าหาดทรายแก้ว-เกาะเสม็ด

มีเรื่องขำๆนิดหนึ่ง ผมเคยไปครั้งแรกก็นานมาแล้ว หลังจากขึ้นบนฝั่งเกาะได้ ก็ใช้บริการนั่งรถสองแถวต่อ แล้วบอกว่าไปหาดทรายแก้ว พอผ่านตรงด่านคนขับก็จอดรถเพื่อเสียค่าธรรมเนียมให้กับอุทยาน คนละ 40 บาทสำหรับผู้ใหญ่และเด็ก 20 บาท แล้วก็ขับรถมาส่งตรงปลายๆหาด เราก็รู้สึกว่าค่ารถ 20 บาทก็คุ้ม 

แต่พอไปเที่ยวเกาะเสม็ดครั้งที่ 2 ใช้บริการรถสองแถวเหมือนเดิม แล้วบอกว่าไปหาดทรายแก้ว รถสองแถวไปจอดตรงที่เสียเงินค่าธรรมเนียม หลังจากจ่ายเงินค่าธรรมเนียมเสร็จ คนขับรถสองแถวบอกว่า ถึงแล้วครับ เดินลงไปชายหาดได้เลย เราก็อ้าว! เพิ่งขึ้นมาตะกี้นี้เองมัยถึงไว ครั้งที่แล้วมันไปอีกไกลกว่านี้อีกหน่อยไม่ใช่เหรอ พอลงรถก็เดินไปตามที่คนขับบอก อืมม... ใช่ หาดทรายแก้วจริงๆด้วย เพียงแต่มันต้นหาด โธ่ รู้งี้เดินมาก็ได้ ได้ออกกำลังกายด้วย ตอนกลับเลยพากันเดินออกกำลังกาย อิอิ แต่สำหรับคนที่ขี้เมื่อยก็ขึ้นรถกลับแระครับ สบายดี

วันพฤหัสบดีที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2554

ตลาดน้ำอโยธยา Ayothaya Floationg Market





สวัสดีครับวันนี้ Thai4Travel จะชวนเพื่อนๆไปท่องเที่ยวตลาดน้ำอโยธยากันนะครับ ตลาดน้ำอโยธยาได้ทำการปรับปรุงสถานที่ ให้สวยงามเหมือนเดิมแล้วครับ จนดูไม่ออกเลยว่า ตลาดน้ำแห่งนี้โดนน้ำท่วมจนเกือบมิดหลังคามาแล้ว เลยอยากเชิญชวนเพื่อนๆ ที่ชอบท่องเที่ยว ไปเที่ยวชมตลาดน้ำกันนะครับ มีสินค้าขายมากมายทั้งของกินและเสื้อผ้า


ตลาดน้ำอโยธยา หรือว่า ได้ถือว่าเป็นตลาดน้ำที่ใหญ่ที่สุดในอยุธยา แถมเดินทางจากกรุงเทพฯไม่ไกลเท่าไร เพียง 80 กม.เท่านั้นเอง เปิดให้บริการตั้งแต่ 10.00 – 21.00 น.ทุกวัน โดยมีการแสดง แสง สี เสียงทุกวัน

การเดินทางไปก็ ง่ายและสะดวก เริ่มจากออกไปทางรังสิต เข้าสายเอเชีย หมายเลข 32 อ่านตามป้ายที่บอกทางไปอยุธยา-นครวรรค์ เลี้ยวซ้ายแรกเข้าเมืองอยุธยา ขับตรงไปเรื่อยๆ สังเกตุง่ายๆคือ ตรงถนนจะมีเจดีย์ อยู่กลางถนน เราก็เลี้ยวขวาตรงวงเวียนเจดีย์ จากวงเวียนเจดีย์ ไปอีกประมาณ1 กิโลเมตรจะเห็นทางเข้าตลาดน้ำอโยธยา  มีรถเข้าออกตลอด

ตลาดน้ำอโยธยามีสถานที่จอดรถฟรีมากกว่า 500 คันครับ แต่ต้องไปกันเช้าๆหน่อยนะครับ แต่ถ้าสายๆหน่อย ที่จอดรถอาจจะเต็มครับ แล้วถ้ายิ่งเป็นวันหยุด เสาร์-อาทิตย์ คนจะเยอะมาก ที่จอดรถจะเต็มครับ ถ้าหากที่จอดรถเต็ม เพื่อนๆก็สามารถไปจอดแถวๆข้างๆตลาดได้ครับ มีที่จอดรถใหบริการแต่ว่า ต้องเสียค่าจอดคัน 20 บาทครับ น่าจะเป็นของชาวบ้านที่อยู่แถวๆนั้นครับ

หลังจากที่เดินชมจนทั่วตลาดน้ำแล้ว ถ้ายังพอมีเวลาเหลือ มีกิจกรรมขี่ช้างชมตลาด ไปกลับ ระหว่างตลาดน้ำอโยธยา-โบราณสถานเก่าวัดมเหยงคณ์

โทรสอบรายละเอียด
โทร. 035-881-688 , 035-881-733





ขุนศึกจราจร กรุณาเป็นระเบียนนะครับ


ขุนศึก ว่างจากศึกแล้วมาขายก๋วยเตี๋ยวเรือ เท่ดีครับ






หอศิลป์ (คุ้มขุนแผน)